QR code (Quick Response Code) คือ โค้ด 2 มิติ ที่มือถือรุ่นใหม่ๆสามารถใช้กล้องสแกนอ่าน และดึงไม่ว่าจะเป็นภาพ, ข้อความ, วิดีโอ หรือ ลิงก์ ออกมาจากโค้ดได้ ถือเป็นอีกทางหนึ่งในการดึงคนจากออฟไลน์ไปออนไลน์
เอาไปใช้ทำอะไร
ในญี่ปุ่น QR code มีมานานแล้ว และก็ได้รับความนิยมมาก มีคนใช้กันเป็นเรื่องปกติ สินค้าตัวไหนๆก็จะแปะโค้ดเข้าไป แทนที่จะต้องมานั่งจดชื่อผลิตภัณฑ์ ก็แค่สแกน QR code แทน สะดวกสบาย แถมยังใช้ลิงก์ไปที่ออนไลน์ช้อปได้เลยอีกด้วย นอกจากนี้บาง billboard ใจกลางเมือง ก็ยังเล่นกับโค้ด โดยการเอา QR code ไปแปะแทนการโฆษณาเป็นรูปภาพหรือตัวอักษร ใครอยากรู้ว่าเป็นอะไร ก็แค่เอาโทรศัพท์มือถือไปสแกน มือถือก็จะอ่านโค้ดที่ว่าและแสดงผลให้รู้ว่ามันคือโฆษณาอะไรกันแน่ เป็นการทำการตลาดที่เก๋ไปอีกแบบ
การประยุกต์ใช้ QR Code เพื่อธุรกิจอาจแบ่งออกเป็นได้หลายแนวทาง เช่น
นำไปสู่เนื้อหาที่มากยิ่งขึ้นด้วยเนื้อที่จำกัดในการสร้างสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการของธุรกิจเรา ดังนั้น QR Code นี้จะช่วยให้ข้อจำกัดด้านเนื้อที่นั้นหมดไปโดยที่คุณสามารถสร้าง Link ชี้มายังเนื้อหาข้อมูลในเว็บไซต์ของบริษัทคุณเองได้ เช่น การสร้าง Campaign โฆษณา,ร่วมสนุก แต่คุณไม่สามารถลงรายละเอียดทั้งหมดได้ในสื่อสิ่งพิมพ์ ก็สามารถใช้ QR Code นี้ชี้นำมาอ่านต่อในเว็บไซต์ได้เป็นต้น
เพื่อแสดงรายละเอียด ของสินค้าประเด็นนี้เหมาะสำหรับการชี้แจงรายละเอียดสินค้าเป็นรายชิ้นรายชนิด คุณสามารถสร้าง QR Code เพื่อชี้นำให้ลูกค้าคุณมาอ่านรายละเอียดของ สรรพคุณสินค้าของคุณเพิ่มเติมได้ ยกตัวอย่าง McDonald ได้ นำ QR Code ใส่ในห่อผลิตภัณฑ์ เบอร์เกอร์แต่ละชนิด เมื่อผู้บริโภค ทำการแสกน QR Code ที่ห่อดู ก็จะพบรายละเอียด ข้อมูลส่วนผสม และ ข้อมูลโภชนาการ ของเบอเกอร์ ที่เพิ่งทานเข้าไปนั่นเอง หรือไวน์บางยี่ห้อก็ได้นำข้อมูลแสดงรายละเอียดประเภทและปีที่ผลิตลงบนขวด สินค้าที่มีราคาแพงและต้องใช้อารมณ์และความรู้สึกในการตัดสินใจมากขึ้นอย่างเช่นโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป หรือรถยนต์ ก็เหมาะที่จะนำ QR Code นี้มาประกอบใน Catalog สิ่งพิมพ์ ซึ่ง Idea นี้ถือเป็นจุดดีในการกระตุ้นความสนใจของลูกค้าที่ต้องการทราบรายละเอียดของสินค้าเพราะสื่อสิ่งพิมพ์อาจไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ
ใช้เพื่อสร้างกิจกรรมทางการตลาดส่งเสริมการขายไอเดียนี้เป็นที่นิยมใช้งานการอย่างแพร่หลายเพราะแน่นอนครับ QR Code เปรียบเสมือนรหัสลับที่ใครๆก็ใคร่ที่อยากจะรู้ว่าข้อมูลนั้นว่ามันคืออะไร หรือคุณสามารถทำ QR Code เป็น E-Coupon เช่นให้ Download QR Code จากเว็บไซต์ลงใน โทรศัพท์มือถือแล้วนำมาเป็นส่วนลด ณ จุดขาย หรือนำ QR Code ใส่ Link Download ไฟล์ภาพ ,เพลง,คลิป VDO ,หรือเนื้อหา ได้ฟรีๆเป็นต้น แม้แต่นำ QR Code ข้างฉลากกล่องเครื่องดื่มมาแลกเป็น Item สุดล้ำในเกมส์อันนี้ก็ถือว่าเป็นการนำมาใช้เพื่อนส่งเสริมการขายเช่นเดียวกัน
ปรินท์โชว์หน้าร้าน
บอกแล้วว่าเอาไปทำอะไรก็ได้จริงๆ ลองนึกเล่นๆดูว่าผู้ใช้ location-based service จะสนุกขึ้นแค่ไหนถ้าหน้าร้านกาแฟของคุณมี QR code ให้เค้าได้สแกนเพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่ม แทนที่จะแค่ check-in เฉยๆ เรื่องพวกนี้ไม่ควรมองข้าม เพราะกระแสการเล่น Foursquare หรือ Gowalla นั้น มาแรงจริงๆ คุณในฐานะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ก็อย่ามัวแต่มองแล้วปล่อยผ่าน อย่าลืมว่าโอกาสทางการตลาดยุคใหม่นี้ ใครเร็วกว่าก็ได้เปรียบกว่าเห็นๆ
สร้างกระแสอื่นๆ
ใครๆก็ชอบของลดราคาหรือของฟรีกันทั้งนั้น ถ้าอยากให้ QR code ของคุณเป็นที่สนใจ ก็ลองเล่นแคมเปญเหมือนช็อคโกแลตของ Willy Wonka ดู เปลี่ยนจากตั๋วทองในช็อคโกแลต เป็น QR code ที่ซ่อนอยู่ในสินค้า หรือ ในเว็บไซต์ ให้คนได้ลุ้นว่าเมื่อสแกนแล้วจะได้อะไร เช่น ลดราคา 25% หรือ รับเครื่องดื่มฟรี เมื่อสั่งเซ็ทอาหารกลางวัน เป็นต้น
ใช้ QRcode กับธุรกิจยังไงให้ถูกต้อง
ในทุกวันนี้เรามักจะได้เห็น รูปสี่เหลี่ยนหน้าตาประหลาดๆที่มีชื่อว่า QRcode อยู่เกลื่อนกลาดตามท้องถนนหรือตามหนังสือ จริงแล้ว QRcode ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่ณ หรือ อเมริกามามากกว่า 10 ปี โดยครั้งแรกนั้น คนคิดมี concept ให้คนสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านมือถือได้โดยไม่ต้องมาพิมพ์ URL ให้เสียเวลา แต่ในเมืองไทยนั้น QRcode ก็เพิ่งได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้มากขึ้นในปีสองปีนี้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะ Blackberry โทรศัพท์ยอดฮิตของคนไทยสามารถ scan QRcode ได้โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม หลายๆคนมองว่า การนำ QRcode งานเป็นเรื่องง่ายเพราะแค่หาเว็บไซต์ที่ใช้สร้าง ใส่ url เว็บไซต์เราลงไป แล้วก็ เอา QRcode ที่ได้ไปแปะตามที่ต่างๆก็จบ แต่จริงๆแล้วการนำ Qrcode เข้ามาใช้ในด้านการตลาดมีเรื่องที่ต้องสนใจและให้ความสำคัญ อยู่หลายเรื่องเหมือนกัน
1.ขนาด ขนาดของ Qrcode ที่แปะลงไปไม่ว่าจะเป็นหนังสือหรือโปเตอร์มีความสำคัญมาก เนื่องจากถ้ามีขนาดเล็กไปมือถือบางรุ่นจะไม่สามารถ scan ได้ แต่ทั้งนั้นเราก็ต้องดูถึงความละเอียดของ ข้อมูลี่อยู่ใน QRcode (สังเกตุจากขนาด และจำนวนจุดบน QRcode) ถ้าหากมีความละเอียดมากก็จำเป็นที่จะต้องทำให้ Qrcode มีขนาดใหญ่นิดหน่อย ผมมีขนาดแนะนำสองขนาดคือ ครึ่งนิ้ว สำหรับข้อมูลที่ไม่ละเอียดมาก และ 1 นิ้วสำหรับข้อมูลที่มีความละเอียดน้อยๆ ขนาดประมาณฯี้จะกำลังดีครับ แต่เพื่อให้มั่นใจแล้ว ลองเอามือถือ หลายๆเครื่อง scan มันก่อน ถ้าใช้งานได้ก็ถือว่าผ่าน
2.สี จากเรื่องขนาดก็จะมีคำถามมาว่า “ขนาดใหญ่ไปก็ทำให้ ads ออกมาไม่สวยสิ” เพราะคนอาจจะมองว่า มันต้องเป็น สี่เหลี่ยมสีขาวดำเท่านั้น จริงๆแล้ว QRcode ไม่จำเป็นที่จะต้องมีพื้นขาว และตัว QRcode เป็นสีดำอย่างเดียวก็ได้ คุณสามารถใช้สีอะไรก็ได้ แต่ขอให้ สีพื้นและสีของตัว QRcode ตัดกันก็พอแล้ว และถ้าสังเกตุงานของเมืองนอกบางงาน จะเห็นได้ว่าเราสามารถที่จะ ใส่รูป Graphic ลงไปใน QRcode ได้ด้วย สองวิธีนี้ก็น่าจะช่วยให้ QRcode ไปรบกวน Ads ของคุณได้น้อยลงนะครับ
3.ตำแหน่งที่แปะ การเลือกสถานที่หรือสือแปะ QRcode จำเป็นจะต้องดูตำแหน่งกันก่อน เพราะ ไม่งั้นแปะไปอาจจะไม่มีคน Scan ก็ได้
- หยิบขึ้นมา scan ได้ – (หนังสือ นิตยสาร แผ่นพับ)
- วางไว้ใกล้ตัวลูกค้า – (กระดาษรองถาดอาหาร)
- เดินเข้าไป Scan ได้ง่ายๆ – (โปสเตอร์ที่ อยู่ในที่ๆคนเดินผ่าน หรือ ที่ๆคนต้องคอยหรืออยู่ในจุดๆนั้นประจำ)
- ตัวสินค้า – (ถ้าคุณมีตัวสินค้าแล้วหละก็อย่ารอช้าที่จะเอามันไปแปะครับ เพราะ ลูกค้าจะสามารถเข้าใจถึง QR code ของคุณได้มากที่สุด)
4.ข้อมูล หลายๆคนคงจะเข้าใจว่า QRcode เมื่อ scan ออกมาแล้วจะได้เพียงแค่ เว็บไซต์ เบอร์โทรศัพท์ หรือ pin BBM แต่จริงๆแล้ว QRcode สามารถบรรจุข้อมูลได้หลายรูปแบบมาก ซึ่งหลักที่เราจะห็นกันบ่อยๆ ก็จะเป็น ข้อความ เว็บไซต์ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือ ส่ง SMS วันนี้ผมจะมาแนะนำรูปแบบที่แตกต่างออกไปแล้วซึ่งน่าสนใจอยู๋พอสมควรครับ
- กำหนดการกิจกรรม(Calendar Event) – เมื่อลูกค้าเรา scan QRcode นี้ แล้วกำหนดการของ Event หรือ งานต่างๆที่คุณใส่เอาไว้ก็จะถูฏบันทึกลงในมือถือของลูกค้า และคอยเตือนเมื่อถึงเวลาทันที
- ข้อมูลการติดต่อ (Contact Information) – ข้อมูลการติดต่อ จะประกอบด้วยชื่อ เบอร์โทรศัพท์ เว็บไซต์ อีเมล หรือ ข้อมูลประกอบเล็กๆน้อยๆ เมื่อลูกค้าของเรา scan QRcode เค้าจะสามารถบันทึกข้อมูลต่างๆเหล่านี้ลงไปใน Contact ของเครื่องได้ทันที สะดวกกว่าการให้ เบอร์โทรศัพท์เพียงอย่างเดียวเยอะเลย
- Geolocation – กระแส LBS มาแรงขนาดนี้ QRcode ของเราก็มีเหมือนกัน จริงๆแล้วคุณสามารถที่จะนำเอาตำแหน่ง GPS ของคุณไปสร้างเป็น QRcode ได้ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าของคุณหาร้านหรือบริษัทของคุณได้ง่ายขึ้น
- Wifi network – QRcode ที่บรรจุข้อมูล wifi accesspoint เอาไว้ จะทำให้คนที่มา Scan สามารถ เชื่อมต่อกับ wifi โดยไม่ต้องมา scan หา หรือต้องมาลำบากใส่ password ยืดยาวที่คุณตั้งเอาไว้ qrcode แบบนี้สามรถนำมาประยุกต์กับงาน Event ต่างๆได้มากมาย
นอกจากการเลือกสถานที่ๆจะเอามันไปแปะแล้ว การเลือกข้อมูลที่จะให้ลูกค้าก็มีความสำคัญ เช่นกัน เพราะฉะนั้นอย่าลืมคิดดีๆเสียก่อนว่าจะเอาอะไรไปให้ลูกค้า scan
5.เว็บไซต์ปลายทางของ QRcode ข้อนี้สำคัญมากเนื่องจาก QR code ออกแบบมาสำหรับให้ใช้งานกับมือถือ หรือ อุปกรณ์ที่สามารถยกขึ้นมา scan ได้ ดังนั้นเวบไซต์ปลายทางควรจะเป็น Mobile site มากกว่า Website ปกติ และ Mobile site นั้นไม่ควรใช้ รูปภาพหรือ text ฟุ่มเฟือยไปนัก รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ Flash Player ด้วยเพราะมือถือส่วนใหญ่ไม่รองรับ Flash
6.โปรโมชั่น จริงอยู่ที่การเข้าเว็บไซต์จาก การ scan QR code น่าจะสะดวกกว่าการพิมพ์ แต่ยังไงแล้วคนไทยก็ ยังติดกับการพิมพ์ชื่อเว็บไซต์อยู๋ดี เพราะฉะนั้นแล้ว การที่เราสร้าง promotion ขึ้นมาเล่นกับ QR code ก็จะเป็นวิธีที่ทำให้คนหันมา scan มากขึ้น อาจจะใช้วิธีการ แจกของฟรีหรือสร้างกิจกรรมเพื่อเล่นเฉพาะคนที่ scan Qr code ก็ได้
7.การวัดผล นอกจากเรื่องสถานที่ สื่อ หรือ ข้อมูล แล้ว สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือการวัดผลการเข้าใช้ ถ้าหากให้ดีแล้วเราควรมีการวัดผลใหชัดเจนว่า มี คนมา scan Qr code ของคุณกี่ครั้ง scan จากช่องทางไหนบ้าง จะได้ทำการวัดผลได้อย่างชัดเจนว่าสื่อชนิดไหน หรือสถานที่ไหนมีประสิทธิภาพมากที่สุดเพื่อที่จะได้นำข้อมูลเหล่านี้มาพัฒนา การใช้งานได้เพิ่มขึ้นในอนาคต
บริการที่เกี่ยวข้อง : บริการ QR Code
ถึงวันนี้การใช้ QR Code ในเชิงธุรกิจในบ้านเราอาจไม่ใช่เรื่องล้ำยุคอีกต่อไปเพราะยักษ์ใหญ่หลายเจ้าเริ่มจุดประเด็นทำให้ผู้บริโภคเริ่มรู้จักและเกาะกระแส QR Code นี้กันแล้วจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะเป็นหนึ่งในปลาตัวใหญ่ที่เกาะกระแสรวยไปกับคลื่นลูกนี้
Credit :